รายการ The Chat Room ประจำวันที่ 5 มีนาคม 2557
วันนี้(5 มี.ค.)เป็นวันแรกที่จีนเริ่มการประชุมใหญ่สภาประชาชนแห่งชาติ ซึ่งเป็นการประชุมที่สำคัญที่สุดของปี ที่รัฐบาลจะประกาศแนวทางการบริหารประเทศตลอดปีนี้ โดยมีการย้ำการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ เปิดเสรีทางเศรษฐกิจ กระตุ้นการเจริญเติบโตของจีดีพีให้สูงกว่าร้อยละ 7.5 รวมถึงประกาศสงครามต่อต้านมลภาวะ และการคอรัปชั่น รวมถึงการกวาดล้างการก่อการร้ายภายในประเทศให้สิ้นซาก
เรื่องเศรษฐกิจเป็นนโยบายที่จีนยึดมั่นมาโดยตลอดอยู่แล้ว ส่วนนโยบายลดปัญหามลภาวะก็เป็นเรื่องที่ชาวจีนกดดันให้รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขโดยเร็ว เนื่องจากนับวันปัญหาจะหนักข้อขึ้นทุกที เช่นเดียวกับการคอรัปชั่นและใช้อำนาจในทางมิชอบของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ระดับสูง ที่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐบาลนายสีจิ้นผิง ลั่นวาจาว่าจะแก้ไข เพราะการคอรัปชั่นส่งผลอย่างหนักต่อวิกฤติศรัทธาที่ประชาชนมีต่อพรรคคอมมิวนิสต์
แต่ที่น่าสนใจก็คือ การที่จีนลั่นวาจาว่าจะเดนหน้าพัฒนาประเทศทั้งทางเศรษฐกิจการค้า และนวัตกรรม จีนก็ยังคงทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลไปกับการพัฒนากองทัพ ปีนี้รัฐบาลประกาศว่าจะเพิ่มงบด้านการทหารอีกร้อยละ 12.2 ไปอยู่ที่ 8 แสน 8 พันล้านหยวน หรือกว่า 4 ล้านล้านบาท ซึ่งนับเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 ปี โดยงบส่วนใหญ่จะทุ่มเทให้กับการพัฒนากองทัพเรือและกองทัพอากาศให้ทัดเทียมกับมหาอำนาจตะวันตก
การเพิ่มงบประมาณให้กองทัพครั้งนี้ ถือเป้นการตอกย้ำว่าจีนยังคงสานฝันการมีกองทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกด้านประสิทธิภาพและเทคโนโลยี หลังจากมีจำนวนคนเกินหน้ากองทัพสหรัฐฯมานานแล้ว โดยเฉพาะการมีเรือบรรทุกเครื่องบิน เรือรบ และเครื่องบินรบที่ทรงประสิทธิภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับการตั้งเป้าเป็นมหาอำนาจด้านการทหารในเอเชียแปซิฟิก
ที่น่าเป็นห่วงก็คือ อีกประเทศที่ทุ่มเทงบประมาณไปกับการพัฒนากองทัพเช่นกัน ก็คือประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงคู่กัดตลอดกาลของจีนอย่างญี่ปุ่น ซึ่งทั้งสองประเทศกำลังมีข้อพิพาททางทะเลเกี่ยวกับการแย่งชิงพื้นที่ทับซ้อนในทะเลจีนตะวันออก จนน่าจับตามองว่าการเพิ่มศักยภาพกองทัพของสองมหาอำนาจเอเชีย จะนำไปสู่ความตึงเครียดครั้งใหม่ในเอเชียแปซิฟิกหรือไม่
วันนี้(5 มี.ค.)เป็นวันแรกที่จีนเริ่มการประชุมใหญ่สภาประชาชนแห่งชาติ ซึ่งเป็นการประชุมที่สำคัญที่สุดของปี ที่รัฐบาลจะประกาศแนวทางการบริหารประเทศตลอดปีนี้ โดยมีการย้ำการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ เปิดเสรีทางเศรษฐกิจ กระตุ้นการเจริญเติบโตของจีดีพีให้สูงกว่าร้อยละ 7.5 รวมถึงประกาศสงครามต่อต้านมลภาวะ และการคอรัปชั่น รวมถึงการกวาดล้างการก่อการร้ายภายในประเทศให้สิ้นซาก
เรื่องเศรษฐกิจเป็นนโยบายที่จีนยึดมั่นมาโดยตลอดอยู่แล้ว ส่วนนโยบายลดปัญหามลภาวะก็เป็นเรื่องที่ชาวจีนกดดันให้รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขโดยเร็ว เนื่องจากนับวันปัญหาจะหนักข้อขึ้นทุกที เช่นเดียวกับการคอรัปชั่นและใช้อำนาจในทางมิชอบของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ระดับสูง ที่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐบาลนายสีจิ้นผิง ลั่นวาจาว่าจะแก้ไข เพราะการคอรัปชั่นส่งผลอย่างหนักต่อวิกฤติศรัทธาที่ประชาชนมีต่อพรรคคอมมิวนิสต์
แต่ที่น่าสนใจก็คือ การที่จีนลั่นวาจาว่าจะเดนหน้าพัฒนาประเทศทั้งทางเศรษฐกิจการค้า และนวัตกรรม จีนก็ยังคงทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลไปกับการพัฒนากองทัพ ปีนี้รัฐบาลประกาศว่าจะเพิ่มงบด้านการทหารอีกร้อยละ 12.2 ไปอยู่ที่ 8 แสน 8 พันล้านหยวน หรือกว่า 4 ล้านล้านบาท ซึ่งนับเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 ปี โดยงบส่วนใหญ่จะทุ่มเทให้กับการพัฒนากองทัพเรือและกองทัพอากาศให้ทัดเทียมกับมหาอำนาจตะวันตก
การเพิ่มงบประมาณให้กองทัพครั้งนี้ ถือเป้นการตอกย้ำว่าจีนยังคงสานฝันการมีกองทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกด้านประสิทธิภาพและเทคโนโลยี หลังจากมีจำนวนคนเกินหน้ากองทัพสหรัฐฯมานานแล้ว โดยเฉพาะการมีเรือบรรทุกเครื่องบิน เรือรบ และเครื่องบินรบที่ทรงประสิทธิภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับการตั้งเป้าเป็นมหาอำนาจด้านการทหารในเอเชียแปซิฟิก
ที่น่าเป็นห่วงก็คือ อีกประเทศที่ทุ่มเทงบประมาณไปกับการพัฒนากองทัพเช่นกัน ก็คือประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงคู่กัดตลอดกาลของจีนอย่างญี่ปุ่น ซึ่งทั้งสองประเทศกำลังมีข้อพิพาททางทะเลเกี่ยวกับการแย่งชิงพื้นที่ทับซ้อนในทะเลจีนตะวันออก จนน่าจับตามองว่าการเพิ่มศักยภาพกองทัพของสองมหาอำนาจเอเชีย จะนำไปสู่ความตึงเครียดครั้งใหม่ในเอเชียแปซิฟิกหรือไม่
Category
🗞
News