• 11 years ago
รายการ The Chat Room ประจำวันที่ 11 มีนาคม 2557

นานาทฤษฎีเบื้องหลังปริศนามาเลเซียแอร์ไลน์หายกลางทะเล

ผ่านไปแล้ว 3 วันนับตั้งแต่เครื่องบินโบอิง 777 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ หายสาบสูญไปจากจอเรดาร์โดยไม่มีร่องรอย ทีมค้นหาซึ่งประกอบด้วยเรือ เฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินจากทั้งมาเลเซีย จีน เวียดนาม สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และไทย ระดมกำลังค้นหาทั่วอ่าวไทย

แต่ก็ยังไม่พบแม้แต่ซากชิ้นส่วนเครื่องบินหรือคราบน้ำมัน โดยชิ้นส่วน 2 ชิ้นที่พบก่อนหน้านี้และคาดว่าเป็นส่วนหางและประตูเครื่องบิน ก็พิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่ซากเครื่องโบอิง 777 ที่หายไป และคราบน้ำมันที่พบที่นอกเกาะกลันตันของมาเลเซีย รวมถึงนอกเกาะโถเจาของเวียดนาม ก็พิสูจน์แล้วว่าไม่เกี่ยวข้องกับเครื่องบินตก

จนถึงขณะนี้ สิ่งที่ทางการมาเลเซียทราบแน่ชัด มีเพียงพิกัดที่เครื่องบินหายสาบสูญไป นั่นก็คือใกล้กับเกาะโถเจา และข้อเท็จจริงที่ว่าเครื่องบินน่าจะตกกลางทะเลแน่นอน และไม่น่าจะมีผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้ เนื่องจากผ่านเส้นตาย 72 ชั่วโมงที่เจ้าหน้าที่จะสามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากกลางทะเลได้มาแล้ว นอกเหนือจากนั้นยังคงต้องรอจนกว่าจะพบซากเครื่อง และที่สำคัญที่สุดก็คือกล่องดำ อุปกรณ์บันทึกการบินและสภาพของเครื่องบิน

ภายใต้สภาพควมไม่แน่นอนเช่นนี้ การคาดเดา ตั้งทฤษฎีต่างๆขึ้นมารองรับสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นมากมาย ทฤษฎีหนึ่งที่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าเกิดขึ้น ก็คือเครื่องบินต้องเกิดภาวะระบบล้มเหลวขั้นรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นความดันอากาศเสียสมดุลอย่างหนักเนื่องจากเกิดรูโหว่ในตัวเครื่อง หรือภาวะไฟฟ้าขัดข้องทั้งลำ เนื่องจากหากไม่มีความผิดพลาดยกระบบแบบกะทันหัน จะต้องมีการพยายามติดต่อกับภาคพื้นดินบ้าง ไม่ใช่หายเงียบไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นนี้

แต่ความเสียหายยกระบบ แทบไม่เคยเกิดขึ้นเลยกับโบอิง 777 เครื่องบินที่ได้ชื่อว่าปลอดภัยที่สุดในโลก เพราะฉะนั้นสาเหตุนี้จึงยากจะเป็นไปได้ เช่นเดียวกับทฤษฎีที่ว่าสภาพอากาศเลวร้าย ทำให้เครื่องขัดข้องจนตก เหมือนที่เคยเกิดกับแอร์ฟรานซ์เมื่อปี 2009 ที่เครื่องบินฝ่าพายุเหนือมหาสมุทรแอตแลนติกจนน้ำแข็งจับตัววัดความเร็ว ทำให้เกย์ขัดข้อง จนเครื่องบินตกลงกลางมหาสมุทร ทฤษฎีนี้ถูกตัดทิ้งไปเนื่องจากในช่วงที่เครื่องโบอิง 777 ของมาเลเซียแอร์ไลน์บินขึ้นสู่ท้องฟ้า สภาพอากาศโปร่งใสไร้พายุ

ทฤษฎีที่เป็นไปได้มากกว่าก็คือความผิดพลาดของนักบิน โดยอาจเกิดความสับสนหลังจากสลับจากออโต้ไพล็อตเป็นระบบแมนวล แล้วเครื่องบินออกนอกทิศทางจนตกลงกลางทะเล ทฤษฎีนี้ยากจะเกิด เนื่องจากแม้เครื่องบินจะออกนอกทิศทาง แต่ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะหลุดรอดจากข่ายเรดาร์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการตัดความเป็นไปได้เกี่ยวกับความผิดพลาดของนักบินออกไป แม้นักบินที่ 1 ของเครื่องที่สูญหาย จะมีชั่วโมงบินกว่า 18,000 ชั่วโมงก็ตาม

แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เชื่อว่าความผิดพลาดจากเครื่องยนต์หรือคน อาจจะไม่ใช่สาเหตุของการสูญหายของเครื่อง 370 ลำนี้ แต่เป็นการก่อการร้าย ไม่ว่าจะเป็นการวางระเบิด หรือบังคับให้นักบินนำเครื่องลงกลางทะเล เช่นเดียวกับเหตุการณ์ 9/11 ที่ผู้ก่อการร้ายบังคับให้นักบินนำเครื่องพุ่งชนตึก World Trade Center

ข้อเท็จจริงที่ว่าเครื่องบินลำนี้มีผู้ใช้พาสปอร์ตปลอมอย่างน้อย 2 คน ยิ่งสนับสนุนความเป็นไปได้นี้มากขึ้น และถ้าเป็นการก่อการร้ายจริง หลายฝ่ายก็มุ่งไปที่ชาวอุยกูร์ ที่เพิ่งก่อเหตุสังหารหมู่ที่สถานีรถไฟคุนหมิงเมื่อสัปดาห์ก่อน เนื่องจากชาวจีนเป็นผู้โดยสารส่วนใหญ่ของเที่ยวบินนี้

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีผู้ออกมาแสดงความรับผิดชอบว่าก่อเหตุปล้นเครื่องบิน ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดปกติสำหรับการก่อการร้ายทั่วไป ทำให้ข้อสันนิษฐานนี้ยังไม่ถือเป็นคำตอบสุดท้าย อย่างน้อยก็จนกว่าการสอบสวนเรื่องพาสปอร์ตจะคืบหน้า หรือจนกว่าจะพบกล่องดำ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเรื่องไหนจะสำเร็จก่อนกัน

Category

🗞
News

Recommended