สามีภรรยาตกงานจากวิกฤติโควิด-19 ภรรยาสั่งซื้ออาหารทะเลออนไลน์ แต่โอนเงินแล้วถูกปิดเฟซบุ๊กหนี สูญกว่า 2,000 บาท ต่อมาไม่นาน สามีสั่งพระเครื่องออนไลน์ ถูกหลอกซ้ำ สูญอีกกว่า 2,000 บาท
ที่ จ.ขอนแก่น น.ส.ณัฐเพ็ญ แก้วกัลยา อายุ 25 ปี และนายเฉลิมพล ตันกรรมสิทธิ์ อายุ 39 ปี สามีภรรยา หอบเอกสารหลักฐานการซื้อขายสินค้าทางออนไลน์เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน เนื่องจากถูกมิจฉาชีพที่แฝงตัวมาในคราบพ่อค้าแม่ค้า มาติดต่อซื้อขายสินค้า พอเหยื่อเชื่้อใจโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร กลับติดต่อไม่ได้และปิดเฟซบุ๊กหนีหาย
น.ส.ณัฐเพ็ญ เล่าให้ฟังว่า ตนเองและสามีมีอาชีพเป็นพนักงานขายเครื่องกรองน้ำ แต่ช่วงวิกฤติโควิด-19 ต้องตกงาน ไม่มีรายได้ จึงต้องการหารายได้เสริม โดยหาข้อมูลเกี่ยวกับการค้าขายอาหารทะเลมาสักระยะ พบว่าซื้อขายง่ายและรายได้ดี กระทั่งเข้าไปดูข้อมูลในกลุ่มเฟซบุ๊กซื้อขายอาหารทะเล พบผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jeraya Junny โพสต์ขายกุ้งแม่น้ำสดจากบ่อ ราคาไม่แพง จึงกดปักหมุดติดตามไว้ ปรากฏว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวส่งข้อความมาทักทาย พร้อมเสนอราคาซื้อขายกุ้งให้ในราคากิโลกรัมละ 100 กว่าบาท แต่ตนเองก็ยังไม่มั่นใจ พอคุยไปสักพัก ได้เสนอราคาซื้อขายกิโลกรัมละ 100 บาท พร้อมอ้างสินค้าเหลือไม่มาก หากไม่รีบซื้ออาจจะไม่ได้สินค้าราคานี้ จึงตกลงซื้อขายที่ 25 กิโลกรัม เป็นเงิน 2,300 บาท และโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ชื่อนายโสมณัฐ อยู่เนียม จากนั้นส่งสลิปโอนเงินให้ผู้ขาย และนัดส่งของกันในวันต่อมา วันรุ่งขึ้น ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ติดต่อไม่ได้ โทรไปก็ไม่รับ และยังปิดเฟซบุ๊กหนี จึงเชื่อว่าถูกหลอก และในกลุ่มก็ถูกแม่ค้ารายนี้หลอกหลายสิบคน หอบหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ยังไม่มีความคืบหน้า
หลังจากถูกหลอกโอนซื้อขายกุ้งออนไลน์ได้ไม่นาน นายเฉลิมพล ผู้เป็นสามี อยากลองเช่าบูชาพระเครื่อง เพื่อเป็นอาชีพเสริมในช่วงที่ตกงาน และได้ไปหาข้อมูลทางออนไลน์ในกลุ่มเช่าบูชาพระเครื่อง กระทั่งมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Ben Phayea ทราบชื่อภายหลังคือ นายอนุวัติ คำมา เข้ามาเสนอปล่อยพระเครื่อง หลวงพ่อโสธร รุ่น 80 ปี กรมตำรวจ ในราคา 2,100 บาท โดยส่งภาพถ่ายมาให้ดูทุกมุม และนายเฉลิมพลดูแล้วว่าเป็นของจริง จึงตัดสินใจโอนเงินให้ ในวันที่ได้รับสินค้า ไม่ทันได้ดูสินค้าละเอียด
ผ่านไป 1 สัปดาห์ นายอนุวัติ เสนอปล่อยหลวงพ่อโสธรรุ่นเดียวกันให้อีก โดยส่งภาพมาให้ดูเหมือนเคย จึงตกลงเช่าบูชาในราคา 4,000 บาท แต่ตนเองขอจ่ายครึ่งเดียวก่อน นายอนุวัติได้ตอบตกลง พอนายเฉลิมพลโอนเงินเสร็จ นายอนุวัติส่งเลขพัสดุมาให้ ตรวจสอบแล้วไม่ใช่เลขพัสดุที่จะส่งมาหานายเฉลิมผล เมื่อสอบถามก็ไม่ได้รับคำตอบ และปิดเฟซบุ๊กหนีหายไป เมื่อมาตรวจดูหลวงพ่อโสธรองค์แรกที่เช่าบูชามา ก็พบว่าเป็นพระปลอม จึงนำข้อมูลไปโพสต์ในกลุ่ม พบว่ามีผู้เสียหายที่ถูกนายอนุวัติหลอกเป็นจำนวนมาก จึงนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อติดตามตัวคนร้ายรายนี้
ที่ จ.ขอนแก่น น.ส.ณัฐเพ็ญ แก้วกัลยา อายุ 25 ปี และนายเฉลิมพล ตันกรรมสิทธิ์ อายุ 39 ปี สามีภรรยา หอบเอกสารหลักฐานการซื้อขายสินค้าทางออนไลน์เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน เนื่องจากถูกมิจฉาชีพที่แฝงตัวมาในคราบพ่อค้าแม่ค้า มาติดต่อซื้อขายสินค้า พอเหยื่อเชื่้อใจโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร กลับติดต่อไม่ได้และปิดเฟซบุ๊กหนีหาย
น.ส.ณัฐเพ็ญ เล่าให้ฟังว่า ตนเองและสามีมีอาชีพเป็นพนักงานขายเครื่องกรองน้ำ แต่ช่วงวิกฤติโควิด-19 ต้องตกงาน ไม่มีรายได้ จึงต้องการหารายได้เสริม โดยหาข้อมูลเกี่ยวกับการค้าขายอาหารทะเลมาสักระยะ พบว่าซื้อขายง่ายและรายได้ดี กระทั่งเข้าไปดูข้อมูลในกลุ่มเฟซบุ๊กซื้อขายอาหารทะเล พบผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jeraya Junny โพสต์ขายกุ้งแม่น้ำสดจากบ่อ ราคาไม่แพง จึงกดปักหมุดติดตามไว้ ปรากฏว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวส่งข้อความมาทักทาย พร้อมเสนอราคาซื้อขายกุ้งให้ในราคากิโลกรัมละ 100 กว่าบาท แต่ตนเองก็ยังไม่มั่นใจ พอคุยไปสักพัก ได้เสนอราคาซื้อขายกิโลกรัมละ 100 บาท พร้อมอ้างสินค้าเหลือไม่มาก หากไม่รีบซื้ออาจจะไม่ได้สินค้าราคานี้ จึงตกลงซื้อขายที่ 25 กิโลกรัม เป็นเงิน 2,300 บาท และโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ชื่อนายโสมณัฐ อยู่เนียม จากนั้นส่งสลิปโอนเงินให้ผู้ขาย และนัดส่งของกันในวันต่อมา วันรุ่งขึ้น ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ติดต่อไม่ได้ โทรไปก็ไม่รับ และยังปิดเฟซบุ๊กหนี จึงเชื่อว่าถูกหลอก และในกลุ่มก็ถูกแม่ค้ารายนี้หลอกหลายสิบคน หอบหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ยังไม่มีความคืบหน้า
หลังจากถูกหลอกโอนซื้อขายกุ้งออนไลน์ได้ไม่นาน นายเฉลิมพล ผู้เป็นสามี อยากลองเช่าบูชาพระเครื่อง เพื่อเป็นอาชีพเสริมในช่วงที่ตกงาน และได้ไปหาข้อมูลทางออนไลน์ในกลุ่มเช่าบูชาพระเครื่อง กระทั่งมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Ben Phayea ทราบชื่อภายหลังคือ นายอนุวัติ คำมา เข้ามาเสนอปล่อยพระเครื่อง หลวงพ่อโสธร รุ่น 80 ปี กรมตำรวจ ในราคา 2,100 บาท โดยส่งภาพถ่ายมาให้ดูทุกมุม และนายเฉลิมพลดูแล้วว่าเป็นของจริง จึงตัดสินใจโอนเงินให้ ในวันที่ได้รับสินค้า ไม่ทันได้ดูสินค้าละเอียด
ผ่านไป 1 สัปดาห์ นายอนุวัติ เสนอปล่อยหลวงพ่อโสธรรุ่นเดียวกันให้อีก โดยส่งภาพมาให้ดูเหมือนเคย จึงตกลงเช่าบูชาในราคา 4,000 บาท แต่ตนเองขอจ่ายครึ่งเดียวก่อน นายอนุวัติได้ตอบตกลง พอนายเฉลิมพลโอนเงินเสร็จ นายอนุวัติส่งเลขพัสดุมาให้ ตรวจสอบแล้วไม่ใช่เลขพัสดุที่จะส่งมาหานายเฉลิมผล เมื่อสอบถามก็ไม่ได้รับคำตอบ และปิดเฟซบุ๊กหนีหายไป เมื่อมาตรวจดูหลวงพ่อโสธรองค์แรกที่เช่าบูชามา ก็พบว่าเป็นพระปลอม จึงนำข้อมูลไปโพสต์ในกลุ่ม พบว่ามีผู้เสียหายที่ถูกนายอนุวัติหลอกเป็นจำนวนมาก จึงนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อติดตามตัวคนร้ายรายนี้
Category
🗞
News