เก้า ไลฟ์สดฉะแหลก เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น แฉเบื้องหลังเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอ! (กระแสเรื่องดัง N0.179)

  • 4 ปีที่แล้ว
เก้า เกริกพล ไลฟ์สดฉะแหลก "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" แฉหมดเปลือกเบื้องหลังเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอ กลับคำไม่ยอมแบ่งรายได้ 70/30 ที่เล่น MV คู่ลิลลี่เพลงดัง ฉุนหนักทำให้พ่อโดนโซเชี่ยลรุมด่ายันโคตร! (กระแสเรื่องดัง N0.179)
ออกมาผลัดกันซัดคนละหมัด สำหรับปมดราม่าเรื่องส่วนแบ่งและค่าตัวของ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น และ เก้า – เกริกพล เพชรรัตน์ นักร้องหนุ่มที่ร่วมฟีเจอร์ริ่งเพลงดัง เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว โดยฝั่ง เจนนี่ หลังจากมีเพจหนึ่งแฉว่าโกงเงินนักร้องหนุ่ม จนเกิดเสียงวิจารณ์อย่างหนัก ได้งัดหลักฐานการโอนเงินออกมาเคลียร์ว่ามีการโอนให้ 10,000 บาท ก่อนถ่ายทำเอ็มวี ต่อมาฝั่งพ่อของนักร้องหนุ่มโทรมาสอบถามเรื่องส่วนแบ่งจากยอดวิวยูทูบจึงได้โอนไปให้อีก 20,000 บาท แต่อีกฝ่ายโอนคืนกลับมา พร้อมยืนยันว่าไม่เคยโกงใคร
จากนั้นเมื่อคืนที่ผ่านมา (29 ก.ค.63) ทางด้าน เก้า เกริกพล ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก เกริกพล เพชรรัตน์ สวนกลับเรื่องดราม่าที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่าเป้นการออกมาพูดแจงในส่วนของตัวเอง
โดยนักร้องหนุ่ม เผยว่า เริ่มต้นการร่วมงานนั้น อีกฝ่ายมาขอฟีเจอริ่งด้วย 2 ครั้ง แต่ตนเองไม่ไป ต่อมาได้ไปออกรายการหนึ่ง ทำให้รู้จักและสนิทกันพอสมควร เลยไปร่วมฟีเจอริ่งด้วย สิ่งที่ออกมาพูดวันนี้เป็นความจริงทุกอย่าง จะพาไปสาบานที่ไหนก็ได้ สำหรับเงิน 10,000 บาท มีการโอนมาให้จริง แต่เขาบอกว่าโอนให้ไว้กินขนมและค่าเดินทางในการไปอัดเสียงร้อง
หลังจากนั้นได้มาเจอกันที่พัทลุง ตอนนั้นมีตน แม่ และเขา รู้ดีที่สุดว่าพูดและตกลงอะไรกัน เขาคุยกับแม่ว่า พี่จะไม่เอาเปรียบน้อง เพราะเคยโดนเอาเปรียบมาก่อน จะดูแลค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ตอนนั้นแม่พูดว่า โอนมา 10,000 มากเกินไปไหม สำหรับเรามันก็มากไป เพราะเราไปอัดเสียงเฉยๆ ยังทำงานให้เขาไม่เสร็จ แต่เขาบอกว่าไม่เป็นไรให้น้องกินขนม วันไปถ่ายเอ็มวีค่อยว่ากันอีกที จนถึงวันถ่ายเอ็มวี เขาสั่งเสื้อผ้าที่ใช้ถ่ายทั้งหมด 6,000 บาท ซึ่งเป็นเงินเอาเงินทีได้ 10,000 บาท ไปซื้อ รวมทั้งค่าที่พัก ค่ากิน ก็เป็นคนจ่ายเอง ซึ่งต้องควักเงินตัวเองออกเพิ่มอีก 2,000 บาท ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าช่วยกันไปก่อน
สำหรับกรณีส่วนแบ่ง 70/30 เขาพูดจริง ไปคุยกับแม่ตนว่าจะแบ่งค่ายูทูบให้เรา ซึ่งคุยกันหลังจากอัดเสียงร้องเสร็จ และรอจะไปถ่ายเอ็มวี ตอนนั้นตนไปกับ พี่ติ๊ก ชีโร่ ด้วย และมีสัญญาใจกัน ไม่ได้เซ็นสัญญา อยู่กันแบบพ่อลูก ไม่มีการปิดกั้นแต่อย่างใด ส่วนแบ่ง 70/30 ที่คุยกัน โดยไม่เขียนลายลักษณ์อักษร เพราะใช้ใจแลกใจ
พอทำเพลงเสร็จ เพลงลงยูทูบติดชาร์จอันดับ 1 มียอดวิวหลายล้าน จนถึงยอดวิวเกิน 10 ล้าน ผมโทรไปหาเขา และบอกว่าเพลงน่าจะถึง 100 ล้านวิวแน่นอน พร้อมแสดงความดีใจกับเขา แต่คำที่ได้ยินจากเขา คือ เพลงนี้ไม่ใช่เพลงของผม เป็นเพลงของ ลิลลี่ แต่คำสัญญาที่เขาให้มาก่อนหน้านั้น ทำไมกลับคำ วันที่เพลงไปขนาดนั้นแล้ว ตนเองทนเก็บเรื่องนี้มาปีกว่าแล้ว ซึ่งการออกมาครั้งนี้ไมได้แก้ข่าว แค่อยากชี้แจง หลังจากเขาบอกว่าเพลงนั้นไม่ใช่ของผม ก็ไม่ได้อะไร เลยตัดสินใจบอกไปว่า ขอเพลงไปทำเป็นเวอร์ชั่นชาย เพื่อเอาไปอัพลงช่องยูทูปของตัวเอง เขาบอกว่าไม่ได้ เราก็งง แต่ไม่เป็นไร เพราะเป็นสิทธิของเขา ส่วนเรื่องที่บอกว่าทำไมมาพูดตอนนี้ ตนเองทำหนังสือยื่นไปให้เขาแล้วที่บ้าน เขาได้รับเอกสารแล้ว แต่เมิน ตนเองก็ไม่อะไร ก็จบกันไป ไม่ได้เรียกร้องอะไร จากนั้นความสัมพันธ์แย่ลง
ส่วนเรื่องคอนเสิร์ตที่มีหลายคนถามว่า ทำไมไม่ไปร่วมงานกับอีกฝ่าย ทำไมหยิ่ง หรือค่าตัวแพง ในส่วนคอนเสิร์ต เราตกลงกันว่า เขาจะให้ 3,000 บาทต่องาน ตอนนั้นตนมาอาศั

แนะนำ